สำหรับการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น สามารถทำกันได้อยู่แล้ว แต่ที่เป็นปัญหาคือห้องเตียงเดียวราคาจะสูงมากๆกว่าห้องเตียงคู่  แม้แต่การเดินทางแบบทัวร์ หากจำนวนคนที่เดินทางเป็นเลขขี่ เช่น 17 คน คนที่17 อาจจะต้องนอนกับไกด์หรือหัวหน้าทัวร์ เพื่อทำให้เป็นห้องคู่  หรือถ้าจะนอนเดียวต้องจ่ายเงินเพิ่ม เป็นต้น  แต่การเดินทางไปตั้งแคมป์คนเดียวก็เที่ยวได้  

     ทำไมถึงประหยัดเพราะหลายที่ไม่ค่าใช้จ่าย เพียงแค่โทรติดเพื่อจองก่อนเดินทาง  หากคุณนำเต็นท์ ไปเอง

     หลายครั้งที่ผมเป็นหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ สิ่งที่ได้เห็นคือ ลูกค้าหลายๆคนเวลาใช้บริการที่โรงแรมสำหรับห้องนอนมัก           จะไปรวมกันอยู่ห้องเดียวเพื่อทำกิจกรรมต่างรวมกันเช่น ดื่ม คุยเล่น นอนเล่นหรือเล่นไพ่หรือนอนห้องเดียวเป็นต้น                   จะดีกว่าไหมถ้าหากจะทำทุกอย่างในห้องเดียวได้ โดยที่ไม่เสียตั้งเพิ่มๆ

     หลายคนพูดว่าไม่อยากเดินทางแบบทัวร์เพราะต้องตื่น เป็นเวลา 6 7 8 แต่ที่จริงเดินทางแบบPackage Tour                  ก็ไม่ต่างที่คุณก็ต้องตื่นเป็นเวลาอยู่ดีหากคุณรับประทานอาหารแบบbuffetซึ่งbuffet ของทางโรงแรมมีช่วงเวลาประมาณ     8โมง-10โมง เขาก็เก็บอาหารอยู่ดี แต่ถ้าตั้งแคมป์ อยู่ที่คุณแล้วว่าจะกินตอนไหน กินอาหารอะไร

     (ไม่ต้องอธิบายนะครับ)

     การเดินทางรูปแบบนี้หากไม่ความสามัคคีจะเป็นการเดินทางที่แย่และทรมานที่สุด แต่หากคุณมีความสามัคคีทริปจะเป็นทริป ที่คุณไม่ลืมเลย ก็ว่าได้เพราะตลอดของทริปคุณจะต้องช่วยเหลือและดูแลซึ่งกันตลอดเวลา ซึงจะทำคุณรู้จักเพือนของคุณ     หรือครอบครัวของคุณมากขึ้น และเข้าใจการทำงานเป็นทีมมากขึ้น หลายคนมักชอบพูดว่าถ้าHoneymoon ต้องเป็นทริปที่ดี ราคาสูงเพื่อไปเก็บความสุขต่างๆ  แต่คนญี่ปุ่นส่วนมากแนะนำว่าถ้าHoneymoonคุณควรจะเดินทางแบบตั้งแคมป์            เพราะมันการเชื่อมได้ดีกว่าการเที่ยวแบบหรูราและทำใหรู้ว่าชีวิตคู่คุณไปรอดไหม (ก่อนแต่งดีกว่าครับ )

     ตลอดการเดินทาง คุณจะได้เรียนรู้ สิ่งใหม่ตลอดเวลาในการเดินทาง ทั้งความรู้ในการอยู่ด้วยตัวเองการฝึกทักษะต่าง      เช่น การทำอาหาร การตั้งแคมป์และอื่นๆและเคร็ดลับต่างๆทีคุณสามารถหาได้จากคนญี่ปุ่นแถวนั้น  วิธีการเชื่อมสัมผัส     ระหว่างคนสองชาติผ่านการทำอาหารหรือการช่วยเหลือซึ่งกันและซึ่งอาจทำให้คุณได้เพือนใหม่ที่ไม่คิดว่าจะได้จากที่นี้         และทำให้คุณรู้เรื่องต่างๆที่คุณหาไม่ได้จากหนังสือนำเที่ยวที่ไหน เชื่อผมส 

     แน่นอนคุณจะได้อยู่กับธรรมชาติแบบใกล้ชิดและบางคร้งธรรมชาติจะเข้ามาใกล้แบบระยะเผาขนก่อนทางเดินศึกษา        .สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติแถวนั้นก่อนเพื่อที่จะรับมือกับมัน (อ่านเพิ่มเติม รออัพเด็ท)

     หลายคนมีเป้าหมายในการเดินทางท่องเทียวญี่ปุ่นและอีกหลายคนก็มีเป้าเช่นกันแต่ไม่มีงบประมาณในการเดินทางท่องเที่ยว พราะการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่น 1ครั้งหลักหมื่นขึ้นจะเก็บครบตามเป้าหมายก็ตั้งเก็บกันเป็นชาติ เพราะเดินทาง โดยใช้โรงแรม เป็นหลัก ซึ่งเป็นหลักคิดที่ผิดสำหรับผมนะหากคุณต้องการเดินทางแบบสบายคุณก็พักโรงแรมแต่หากมีจุดประสงค์ที่ใหญ่ กว่าคำว่าสบาย  นี้คือทางอีกทางหนึ่งของคุณที่จะทำให้ไปถึงจุดหมายโดยที่คุณไม่ต้องเสียงบประมาณมากจนเกินไป  เพราะเวลาลงไปทำงานไม่เคยนอนโรงแรมเพราะผมไปทำงานเก็บข้อมูลต้องประหยัดให้มากที่สุด เงินเป็นล้านก็เที่ยวญี่ปุ่น ไม่หมด หากพักโรงแรมและตอนนี้ผมก็ยังไม่หมดอยู่ดี ที่เทียวญี่ปุ่นจากการสำรวจของผม  มีมากกว่า1แสนที่สวยงาม และยังเป็นความลับของญี่ปุ่นอีกมากมาย

  เพราะไม่สิ่งอำนวยความสะดวกหรือบริการอื่นๆเหมือนนอนโรงแรม  คุณต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างในการพักที่นี้และต้อง    เตรียมสิ่งต่างๆมาเอง เช่นเต็นท์ อาหาร หรือสิ่งอื่นๆในการพักแรม แต่ส่วนใหญ่จุดพักแรมใหญ่ๆจะมีให้เช่าอุปกรณ์พื้นฐาน      หรืออาหารในพื้นอยู่แล้วและมีเจ้าหน้าทีคอยดูแลอยู่และให้คำปรึกษาเรื่องต่างอยู่และมีห้องน้ำ หรือน้ำดื่มให้ใช้ฟรี

   หลายแห่งมีเวลาเปิดและปิดที่ไม่เหมือนกันก่อนที่จะเดินทางหรือวางแผนที่จะเที่ยวกรุณาเช็คการเปิดและปิดหรือโทรไปสอบ   ถามก่อนเรื่องวันเปิดและวันปิดอาจจะไม่ตรงกันทุกปีขึ้นกับสภาพอากาศและฤดูกาล

   คนญี่ปุ่นรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบ้านเขามากเพราะเขามีความคิดที่ได้สืบทอดมากันเป็นรุ่นต่อรุ่นและแนวคิดนั้นคือ   แนวคิดเกียวกับธรรมชาติของคนญี่ปุ่นอันตรายต่อเพือนบ้านมากแต่ดีสำหรับเขาคือการไปใช้ทรัพยากร60-80%              จากเพือนบ้านและใช้ทรัพยากรตัวเองเพียงแค่ 20%  และนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกาะฮาชิมะล้าง หรือเกาะผีสิงที่มีหนังไทย    ไปถ่ายทำ  เพราะเกาะนี้เป็นเกาะที่ทำการขุดแร่ในสมัยก่อนแต่ได้มีการเปลียนแปลงการแผนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น                  เพราะฉนั้นโปรดรักษาความสะอาดบริเวณที่ไปตั้งแคมป์ครับ เพราะมันเป็นสมบัติที่ลำค่าของญี่ปุ่น

   เนื่องจากการเดินทางประเภทนี้ไม่สิ่งไดๆที่จะรับประกันถึงความปลอดภัย จากคน หรือสัตว์ป่าและอื่นๆได้ควรจมีะคนที่แข็งแรง หรือผู้ชายในการเดินทางเอาไว้เป็นไม้กันคนที่อาจจะคิดร้าย เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกคิดไม่ดีหากเห็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว  หรือกลุ่มผู้หญิงแต่ถ้าผู้ชายมันก็คงว่าจัดการผู้ชายหรือไม่ออกห่าง หาเหยื่อรายใหม่ เพราะฉนั้นไม่แนะนำครับ ถ้าเป็นผู้หญิง   เดินทางคนเดียว หรือกลุ่มผู้หหญิงหมด   

   งู แรคคูนและแมลงมีพิษ มีเพียงแค่ 20% เท่านั้นที่จะได้เจอ แต่ก็ควรศึกษาไว้ก่อนและเตรียมยาหรืออุปกรณ์ในการเดินทาง  มาตั้งแคมป์ แต่มีสิ่งหนึ่งถ้าอยู่พื้นสีแดง โอกาส 80%ที่จะได้เจอก็คือหมี ควรศึกษาเกียวกับเจอหมีว่าต้องอย่างไรในการเดินป่า   หรือตั้งแคมป์และสอบถามเจ้าหน้าที่เมื่อไปถึง

-การดูหมีปกติแล้วทางอุทยานจะไม่ให้คนเข้าไปใกล้หมีเกิน10-20เมตร

-คติประจำสำหรับการดูลูกหมีจงคิดไว้เสมอว่าหากเจอลูกหมีจะเจอแม่หมีอยู่ใกล้เสมอ90-99% เพราะฉะนั้นต้องรักษา ระยะห่างจากเจ้าตัวแสบทั้งหลายที่อยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา ถึงแม้ในกระทั้งตอนที่เราไม่เห็นแม่หมีอยู่ก็ต้องทิ้ง ระยะห่างไว้เสมอ

การเอาตัวรอดในกกรณีเจอหมี 

1.ค่อยๆเดินถอยหลังช้า ห้ามหั้นหลังกลับเด็จขาด 
2.หายใจช้าๆห้ามแสดงอากาศวิตกกังวนหรือกลัว
3.สั้นกระดิ้งเป็นระยะ ห้ามทำเสียงดัง 
4.ในระหว่างที่ถอย หาที่มั่น กรณีร้ายแร้ง ให้ขึ้นต้นไม้สุงที่สุดกับว่ายน้ำไปที่ลึกๆ 

การเอาตัวรอด กรณีร้ายแรง 
1.หาต้นไม้สูง ที่แข็งแรง ปีนขึ้นให้สูงที่สุด เพราะวิ่งหนียังไงก็ไม่ทันมัน 
2.กระโดดลงน้ำแล้วว่ายน้ำไปให้ไกลที่สุด เท่าที่ทำได้ 

อุปกรณ์สำคัญที่สุดของการเดินป่าที่นี้

คือกระดิ้งที่เป้ หรือกระเป๋า หรือกระดิ้งที่รองท้าว หมีที่นี้รู้ว่าเสียงกระดิ้งหมายถึงคน ป้องกันเหตุไม่คาดฝันในการเดินมาเจอกัน หรือการตัดหน้ากัน   หรือติดกระดิ้งไว้ที่เต็นท์ด้วยอาจจะรำคาญนิดนึ่งแต่ปลอยภัยไว้ก่อน

1.กระดิ้งสำหรับเดินป่า สัตว์หลายชนิดในญี่ปุ่นเข้าใจว่าเสียงกระดิ้งหมายถึงคน

2.นกหวีดกรณีร้ายแรง อันตรายจากคน หรืออื่นๆ ยกเว้นหมี ห้ามเป่าใส่เด็จขาดไปยั่วมัน

3.ยารักโรคหรือยากันแมลงต่างๆ

4.อาหารแห้งดีที่สุด ในเขตุพื้นที่สีแดง

5.เครื่องทำความร้อนแบบพกพา มีให้เช่าในญี่ปุ่น เพราะบางที่มันหนาวมากๆ

6.เข็มทิศ โปราณหน่อยแต่ก็ยังใช้ได้เสมอ

7.เสือสีสว่างหรือสะท้อนแสงได้ดี

8.ไฟฉาย

9.สติ

  เรื่องของคาวหรือวัตถุดิบที่มีกลิ่นเมื่อทำเสร็จแล้วหรือเหลือจาการทำไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเก็บไว้ในเต็นท์ควรจัดเก็บไว้ห่าง จากเต็นท์ 5-10 เมตร เพราะอาจทำให้ตอนนอนจะเจอกับสัตว์ได้หมีหรือแรคคูนได้ และเศษอาหารที่เหลือให้ไปกลบทิ้ง   ไว้ไกลจากเต็นท์ 10-20 เมตรของคาวไม่ควรอยู่ในเต็นท์หรือใกล้เลย 

-ลงทุนสักหน่อยเพื่อการเดินทางทีสมบรูณ์แบบ  (Big C/ Loc อย่าเลยครับของเด็กเล่น)

-มือใหม่ก่อนซื้อถามให้เยอะให้พนักสาธิตและลองกางเต็นท์ก่อนซื้อ ขอเบอร์ติดต่อไว้เลย

-เลือกขนาด เพื่อการพกพา เล็ก-กลาง    ขนาดใหญ่ต้องคนที่ชำนาญเพราะมันกางยากเก็บยาก

-ควรซื้อเต้นแบบฟลายชีทต้องให้ใหญ่ไว้กันฝนกันน้ำค้าง

-พื้นเต็นท์ด้านนอกควรมีผ้าพลาสติคอีกผืนนึงปูรองต่างหาก

-เต๊นท์ที่มีหน้าต่างหรือช่องเปิดให้ลมผ่านได้ จะดีกว่าเต็นท์ที่มีแต่ทางเข้าทางเดียว

-เลือกเต็นท์ให้เหมาะสมกับจำนวนคน เช่น หากนอนกัน 3 คน ก็ควรเลือกเต็นท์ที่มีพื้นที่ขนาด 4 

-เลือกเต็นท์ที่เหมาะสมกับฤดู ซึ่งวัสดุที่เหมาะสมสำหรับพักแรมในฤดูต่างๆ ย่อมไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ฤดูฝนให้เลือกเต็นท์ที่มีเนื้อผ้าเคลือบน้ำยากันน้ำได้ หรือมีผ้าฟลายชีทติดมาในชุด เพราะผ้าชนิดนี้จะสามารถกันน้ำฝนในยามที่คุณนอนหลับพักผ่อนได้ เต็นท์สำหรับฤดูร้อน ควรเป็นผ้าเนื้อบาง สามารถระบายลมได้ดี และเต็นท์สำหรับหน้าหนาว ควรเป็นเต็นท์ที่มีผ้าเนื้อหนากันลมหนาวที่โกรกยามกลางคืนได้ เป็นต้น